วันที่ 1 กรุงเทพ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - อิสลามาบัด 

• 16.00 น. ทุกท่านพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ ชั้น 4  ทางออกที่ 4  เคาน์เตอร์สายการบินไทย พบกับทีมงานที่จะคอยดูแลและอำนวยความสะดวก
• 19.00 น. ออกเดินทางไปยัง เมืองอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน  ด้วยสายการบินไทย TG 349 ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง 10  นาที
• 23.00 น. เดินทางถึง สนามบินอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) ประเทศปากีสถาน จากนั้นเดินทางเข้าสู่เมือง อิสลามาบัด (Islamabad)
• ที่พัก โรงแรมใน Islamabad ***

วันที่ 2 : อิสลามาบัด – สการ์ดู - ทะเลทรายเย็น - ทะเลสาบคาชูรา

• เช้า รับประทานอาหาร เช้า
• 05.00 ออกเดินทางไป สนามบินอิสลามาบัด เพื่อเดินทางสู่เมือง สการ์ดู (Skardu) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (ไฟลต์บินยังไม่ระบุเวลา โดยจะเลือกไฟลต์ที่เหมาะสมที่สุดแก่การเดินทาง)
• เที่ยง เดินทางถึงเมือง สการ์ดู (Skardu) เขตปกครองตนเอง กิลกิต-บัลติสถาน (Gilgit-Baltistan) ดินแดนแห่งเทือกเขาคาราโครัมที่ยิ่งใหญ่
• เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง
• ชม Katpana Desert หรือ ทะเลทรายเย็น ตั้งอยู่ในกิลกิต-บัลติสถาน ทะเลทรายมีเนินทรายขนาดใหญ่ที่บางครั้งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,226 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่สูงที่สุดในโลก
• ทะเลสาบแชงกรีลา (Shangrila) หรือ ทะเลสาบคาชูรา (Kachura lake)  ห่างจากสการ์ดูประมาณ 32 กม.และนั่งรถจี๊ป 1 ชั่วโมง ทะเลสาบแชงกรีลาลึกอันเงียบสงบที่ส่องประกายระยิบระยับ ซึ่งเต็มไปด้วยปลาเทราต์สีน้ำตาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ที่แปลกใหม่และหลากสีสันจะประดับประดาริมฝั่ง ในขณะที่ต้นพีช แอปริคอท และต้นแอปเปิลจะบานสะพรั่งในเดือนเมษายน
• เย็น รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก โรงแรมใน Skardu***

วันที่ 3 : จุดชมวิว Marsur Rock-ศิลามันตัล-ทะเลสาบสัตปาระ

• เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
• เดินทางต่อไปยัง Hussain Abad จากนั้น เดินใช้เวลา 3 ชั่วโมงสู่ Marsur Rock View point เป็นหินที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Hussainabad ใกล้กับ เมือง Skardu หินมีความยาว 38 ฟุต กว้าง15 ฟุตจากพื้นดิน และปลายอีก ด้านหนึ่งกว้างเพียงสองฟุตครึ่งเท่านั้น ค้นพบในปี 2017 และกลายเป็นที่สนใจ ของนักท่องเที่ยว
• เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง
• ชมศิลามันตัล Manthal Buddha ศิลาพระพุทธรูป เป็นหินแกรนิตขนาดใหญ่ซึ่งมีงานแกะสลักภาพของพระพุทธเจ้าบนนั้น อายุเก่าแก่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 8 ตั้งอยู่ในหมู่บ้านมันตัล ในเมืองสการ์ดู
• ชมทะเลสาบ ทะเลสาบสัตปาระ Satpara Lake ตั้งอยู่ในหุบเขาสการ์ดู นับเป็นทะเลสาบน้ำจืดได้รับการขนานนามว่า เป็นทะเลสาบที่งดงามที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศปากีสถาน ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,636 เมตร ที่นี่นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเก็บน้ำที่สำคัญ และยังเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของปลาเทราส์ ซึ่งเป็นปลาสายพันธุ์เดียวกับปลาแซลมอนอีกด้วย
• เย็น รับประทานอาหารเย็น และเข้าพักในที่พัก โรงแรมใน Skardu***

วันที่ 4 : ป้อมการ์โพส-Blind Lake & ทะเลทรายเย็น ซาฟรารังกา

• เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
• เดินขึ้นสู่ ป้อมการ์โพโช Kharpocho Fort หรือ ป้อมปราการ Skardu” ที่ได้ชื่อว่า “King of Forts” ด้วยทำเลชัยภูมิของป้อมที่ตั้งอยู่บนหน้าผาเป็นจุดรวมของแม่น้ำทำให้เหมาะอย่างยิ่งในการสังเกตการณ์ข้าศึกหรือผู้มาเยือน สร้างขึ้นโดยอาลี เชอร์ ข่าน อันชัน ผู้ปกครองบัลติสถานจนถึงปลายศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันป้อมปราการแห่งนี้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
• เดินทางต่อไปยัง ทะเลทรายเย็น ซาฟรารังกา Sarfaranga Cold Desert ตั้งอยู่ในเขต Shigar ที่ระดับความสูง 7,500 ฟุต ทะเลทรายล้อมรอบด้วยภูเขาและมีแม่น้ำสินธุไหลอยู่ใกล้ๆ
• เดินทางไปหุบเขาชิการ์ Shigar Valley ประตูสู่ยอดเขาที่ยิ่งใหญ่ของ Karakorams, Gasherbrum และ K2 อยู่ห่างจาก Skardu 23 กม. เนินเขาเต็มไปด้วยทุ่งข้าวสาลี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวบาร์เลย์ สวนผลไม้ที่มีทั้งแอปริคอต มัลเบอร์รี่ ลูกพีช ลูกพลัม ลูกแพร์ แอปเปิ้ล และถั่วต่างๆ ชมมัสยิดไม้กลางเมืองสร้างโดยช่างไม้ชาวแคชเมียร์เมื่อหลายร้อยปีก่อน
• เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง
• เดินทางต่อไปยัง Blind Lake เป็นทะเลสาบที่สวยงามระหว่างสการ์ดูและชิการ์ อยู่ห่างจากเมืองสการ์ดูโดยใช้เวลาขับรถเกือบ 30 นาที นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นบนหาดทราย โขดหิน และหญ้าสีเขียวชอุ่ม ทะเลสาบแห่งนี้อยู่บนเส้นทางในตำนานของ K-2
• เย็น รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก โรงแรมใน Skardu***

วันที่ 5 : สการ์ดู – หุบเขาฮุนซ่า – คาริมาบัด

• เช้า รับประทานอาหารเช้าง
• นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) ระยะทางประมาณ 286 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
• ระหว่างทางเราจะแวะให้ชมจุดที่เรียกว่า World 3 Mountain ranges จุดที่สามารถมองเห็นเทือกขายักษ์ใหญ่ 3แห่งด้วยกันคือ คาราโครัม, หิมาลัย และ ฮินดูกูซ
• เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น ที่เมืองกิลกิต
• บ่าย ระหว่างทางไปฮุนซ่า เราจะแวะชม เส้นทางสายไหมเส้นดั้งเดิม และ แวะ จุดชมวิวราคาโพชิ (Rakaposhi View Point) ที่มีความสูง 7,790 เมตร
• ถึง เมืองคาริมาบัด (Karimabad) เมืองหลวงของ หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) ที่อยู่ในระดับความสูง 2,438 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
• หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า เมืองบัลติท (Baltit) ซึ่งเคยเป็นรัฐอิสระที่มีอำนาจปกครองตนเองเป็นเวลานานหลายร้อยปี ซึ่งชาวบ้านในเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายอิสมาอิล
• เย็น รับประทานอาหารเย็น
• ที่พัก โรงแรมใน Hunza ***

วันที่ 6 : ป้อมบัลติท-ป้อมอัลติท –ดุยเกอร์

เช้า รับประทานอาหารเช้า

ชม ป้อมบัลติท (Baltit Fort) ที่มีความเก่าแก่กว่า 750 ปี ป้อมปราการแห่งนี้เป็นอดีตพระราชวังหลวงที่มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแคชเมียร์หรือทิเบตและได้รับการต่อเติมขยายส่วนต่างๆมากมายจนกระทั่งในสมัยของที่อังกฤษได้เข้ามาปกครอง ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของ Aga Khan Foundation ชม ป้อมอัลติท (Altit Fort) ป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดในหุบเขาฮุนซา ตั้งอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำฮุนซามีความสวยงามเป็นอย่างมาก

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ที่ Khabasi Cafe

เดินทางไปยัง Duiker bird eye view จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากของเมือง จุดนี้สามารถมองเห็นเมืองฮุนซ่า, Nagar Valley, Golden Peak, and Rusk Lake & Rakaposhi view

เย็น รับประทานอาหารเย็น

ที่พัก โรงแรมใน Hunza ***

วันที่ 7 : โฮปาร์วัลเล่ย์ -  ทะเลสาบอัตตาบัด - หุบเขาพาสสุ - สะพานแขวนฮุซซานี-ทะเลสาทบอริท

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• เดินทางไปยัง Hoper glacier เป็นหนึ่งในจุดชมวิวอันสวยงามจุดหนึ่ง รอบข้างเต็มไปด้วยยอดเขาสูงรอบล้อม และความพิเศษของที่นี่ คือ ธารน้ำแข็งจะเป็นสีดำจากแร่ธาตุในบริเวณนี้ ทำให้ที่นี่สวยงามดูแปลกตาอย่างบมาก
• เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
• เดินทางสู่ Gojal Valley ชม ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) เป็นทะเลสาบที่เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 2010 (Attabad Disaster) จนกลายเป็นทะเลสาบสีเทอควอยส์มีความยาว 21 กิโลเมตร และความลึก 100 เมตร
• เดินทางสู่ หุบเขาพาสสุ (Passu Valley) เทือกเขาอันยิ่งใหญ่ตระการตา นำท่านชม สะพานแขวนฮุซซานี (Hussaini Suspension bridge) ซึ่งมีฉากหลังเป็นภาพของ หุบเขาพาสสุ (Passu Valley) เดินทางต่อสู่ ธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier)
• เดินทางไป Borith Lake เป็นทะเลสาบที่อยู่ในระดับความสูง 2,600 เมตร มีจุดชมวิวและจุดถ่ายรูปที่สวยงาม
• เย็น รับประทานอาหารเย็น
• เดินทางกลับ และพัก โรงแรมใน กิลกิต *** 

วันที่ 8 : กิลกิต – เบชฮาม

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• ออกเดินท่างสู่เมืองเบชฮาม Besham วันนี้เดินทางไกล เดินทาง 8 ชั่วโมง โดยเลียบตามไหล่เขาบนเส้นทางคาราโครัม ให้ท่านได้ชื่นชมเทือกเขายักษ์ใหญ่ระดับโลก 3 เทือกเขา ผ่านหมู่บ้านต่างๆตลอดเส้นทาง
• เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ระหว่างทาง
• เดินทางถึง เบชฮาม Besham
• เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมที่พัก  
• เข้าพักในโรงแรมที่พัก ณ เมือง เบชฮาม ***

วันที่ 9 : เบชฮาม – อิสลามาบัด

• เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
• จากนั้นเดินทางสู่เมืองหลวงอิสลามาบัด
• เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ระหว่างทาง
• ชม มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ถูกสร้างโดยกษัตริย์ Faisal bin Abdul-Aziz แห่งซาอุดิอาระเบีย และออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี Vedat Dalokay ผู้ซึ่งได้รับรางวัลสถาปัตยกรรม Agha Khan Award ซึ่งลักษณะของมัสยิดแห่งนี้ถูกออกแบบให้คล้ายกับเต็นท์ของชาว Bedouin ในทะเลทราย สามารถบรรจุผู้เข้าร่วมภายในโดมได้ถึง 10,000 คน โดยมีฉากหลังของมัสยิดเป็น Margalla Hills
• เย็น รับประทานอาหาน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
• 19.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพ
• 23.20 น. เดินทางสู่กรุงเทพด้วย สายการบินไทย TG 350

วันที่ 10 : กรุงเทพ

• 06.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิอย่างสวัสดิภาพ

หมายเหตุ โปรแกรมสามารถ ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ หน้างาน ทั้งนี้ ผู้จัดจะดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของผู้ร่วมทริปเป็นสำคัญ

แกลลอรี่