"“ถนนสายคาราโครัมไฮเวย์” (Karakoram Highway) ได้รับสมญานามว่าเป็น “สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก” เพราะพาดผ่านบนความสูงเกือบ 5,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สร้างขนานไปกับเส้นทางสายไหมโบราณ (Ancient Silk Road) เชื่อมโลกตะวันออกจากจีนไปตะวันตกที่กรุงโรม "
วันที่ 1 กรุงเทพ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - อิสลามาบัด
- 16.00 น. ทุกท่านพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ ชั้น 4 ทางออกที่ 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย พบกับทีมงานที่จะคอยดูแลและอำนวยความสะดวก
- 19.00 น. ออกเดินทางไปยัง เมืองอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน ด้วยสายการบินไทย TG 349 ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง 10 นาที
- 23.00 น. เดินทางถึง สนามบินอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) ประเทศปากีสถาน จากนั้นเดินทางเข้าสู่เมือง อิสลามาบัด (Islamabad)
- ที่พัก โรงแรมใน Islamabad ***
วันที่ 2 : อิสลามาบัด – กิลกิต - ฮุนซ่า
- เช้า รับประทานอาหาร เช้า
- 05.00 ออกเดินทางไป สนามบินอิสลามาบัด เพื่อเดินทางสู่เมืองกิลกิต ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (ไฟลต์บินยังไม่ระบุเวลา โดยจะเลือกไฟลต์ที่ เหมาะสมที่สุดแก่การเดินทาง)
- เดินทางถึงเมือง กิลกิต และนำท่านเดินทางสู่ เมืองคาริมาบัด (Karimabad) เมืองหลวงของ หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) ระยะทางประมาณ 98 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
- ระหว่างทางเราจะแวะให้ชมจุดที่เรียกว่า World 3 Mountain ranges จุดที่สามารถมองเห็นเทือกขายักษ์ใหญ่ 3 แห่งด้วยกันคือ คาราโครัม, หิมาลัย และ ฮินดูกูซ
- เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น ที่เมืองกิลกิต
- บ่าย ระหว่างทางไปฮุนซ่า เราจะแวะชม เส้นทางสายไหมเส้นดั้งเดิม และ แวะ จุดชมวิวราคาโพชิ (Rakaposhi View Point) ที่มีความสูง 7,790 เมตร
- ถึง เมืองคาริมาบัด (Karimabad) เมืองหลวงของ หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) ที่อยู่ในระดับความสูง 2,438 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลหรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า เมืองบัลติท (Baltit) ซึ่งเคยเป็นรัฐอิสระที่มีอำนาจปกครองตนเองเป็นเวลานานหลายร้อยปี ซึ่งชาวบ้านในเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายอิสมาอิล
- เย็น รับประทานอาหารเย็น และพัก โรงแรมใน Hunza ***

วันที่ 3 : ป้อมบัลติท - ป้อมอัลติท – ดุยเกอร์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า
- ชม ป้อมบัลติท (Baltit Fort) ที่มีความเก่าแก่กว่า 750 ปี ป้อมปราการแห่งนี้เป็นอดีตพระราชวังหลวงที่มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแคชเมียร์หรือทิเบตและได้รับการต่อเติมขยายส่วนต่างๆมากมายจนกระทั่งในสมัยของที่อังกฤษได้เข้ามาปกครอง ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของ Aga Khan Foundation ชม ป้อมอัลติท (Altit Fort) ป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดในหุบเขาฮุนซา ตั้งอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำฮุนซามีความสวยงามเป็นอย่างมาก
- เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ที่ Khabasi Cafe
- เดินทางไปยัง Duiker bird eye view จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากของเมือง จุดนี้สามารถมองเห็นเมืองฮุนซ่า, Nagar Valley, Golden Peak, and Rusk Lake & Rakaposhi view
- เย็น รับประทานอาหารเย็น
- ที่พัก โรงแรมใน Hunza ***

วันที่ 4 : โฮปาร์วัลเล่ย์ - ทะเลสาบอัตตาบัด - หุบเขาพาสสุ - สะพานแขวนฮุซซานี - ทะเลสาทบอริท
- เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เดินทางไปยัง Hoper glacier เป็นหนึ่งในจุดชมวิวอันสวยงามจุดหนึ่ง รอบข้างเต็มไปด้วยยอดเขาสูงรอบล้อม และความพิเศษของที่นี่ คือ ธารน้ำแข็งจะเป็นสีดำจากแร่ธาตุในบริเวณนี้ ทำให้ที่นี่สวยงามดูแปลกตาอย่างบมาก
- เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
- เดินทางสู่ Gojal Valley ชม ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) เป็นทะเลสาบที่เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 2010 (Attabad Disaster) จนกลายเป็นทะเลสาบสีเทอควอยส์มีความยาว 21 กิโลเมตร และความลึก 100 เมตร
- เดินทางสู่ หุบเขาพาสสุ (Passu Valley) เทือกเขาอันยิ่งใหญ่ตระการตา นำท่านชม สะพานแขวนฮุซซานี (Hussaini Suspension bridge) ซึ่งมีฉากหลังเป็นภาพของ หุบเขาพาสสุ (Passu Valley) เดินทางต่อสู่ ธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier)
- เดินทางไป Borith Lake เป็นทะเลสาบที่อยู่ในระดับความสูง 2,600 เมตร มีจุดชมวิวและจุดถ่ายรูปที่สวยงาม
- เย็น รับประทานอาหารเย็น
- เดินทางกลับ และพัก โรงแรมใน กิลกิต ***

วันที่ 5 : กิลกิต – แฟรี่มิโดวส์
- เช้า รับประทานอาหารเช้า
- เดินทางสู่ แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Meadow) ทุ่งหญ้าแห่งเทพนิยาย ภาษาเยอรมันเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “Merchenwiese” ตั้งชื่อด้วยนักปีนเขาชาวเยอรมัน ติดอันดับสถานที่สวยที่สุดของโลกเป็นอันดับที่ 3 อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,300 เมตร ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีแห่งนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยป่า มีจุดชมวิวธารน้ำแข็ง Raikot และ ยอดเขานังกาพาร์บัต (Nanga Parbat) ยอดเขาสูงอันดับ 9 ของโลก ที่งดงามมาก
- “ยอดเขานังกาพาร์บัต (Nanga Parbat) มีความสูง 8,126 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชื่อมีความหมายว่า “ยอดเขาเปลือย” แต่คนกลับรู้จักกันในนาม “ยอดเขาเพชรฆาต”
- การเดินทางสู่ แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Meadow)
- ใช้พาหนะหลักเดินทางจากสนามบินมาถึง Raikot bridge (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง)
- หลังจากนั้นนั่งรถ Jeep ที่สะพาน Raikot bridge ข้ามแม่น้ำสินธุ วิ่งเข้าสู่หมู่บ้าน Tatto valley (ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)
- หลังจากนั้น Trek ระยะทาง5 กิโลเมตร ใช้เวลา 3.5 – 4 ชั่วโมง (Elevation Gain 700 m. / Altitude 3,300 m) หรือเลือกขี่ม้าลัดเลาะตามสันเขา มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมท่านละประมาณ 3000 – 3500 รูปี ทางไม่ชันมาก คนอายุเยอะสามารถเดินได้ จะมีบางจุดที่ทางแคบหน่อย แต่ไม่อันตราย
- เที่ยง รับประทานอาหารระหว่างทาง
- บ่าย เดินทางถึง Fairy Meadow นำสัมภาระเก็บเข้าที่พักให้เรียบร้อย พาท่านนำไปชมวิวโดยรอบๆ แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Meadow) วิวทุ่งหญ้า พร้อมชมยอดเขา Nanga Parbat ที่รายล้อมด้วยป่าสน
- เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมที่พัก ใน Fairy Meadow

วันที่ 6 : แฟรี่มิโดวส์
- เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- Trekking สู่ Beyal Camp ระหว่างทางชมดอกไม้ป่าและลำธารที่สวยงาม ชมวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน ในบรรยากาศที่คล้ายกับหมู่บ้านเล็กๆ ในทวีปยุโรป ท่านจะได้เห็นยอดนังการ์พาร์บัตและธารน้ำแข็ง Raikot อย่างใกล้ชิด
- ระยะทาง 4.2 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง ทางเรียบเป็นส่วนใหญ่ ชันเล็กน้อยบางจุด
- เที่ยง รับประทานอาหารระหว่างทาง
- ส่วนเสริม สำหรับท่านที่สภาพร่างกายพร้อม ท่านอาจจะเดินทางต่อสู่ Nanga Parbat Base camp ซึ่งจะมีระยะทางไปกลับประมาณ 16 กิโลเมตร หรืออาจจะแวะประมาณครึ่งทางที่ Nanga Parbat Viewpoint หลังจากนั้นเดินทางกลับที่พักโดยใช้เส้นทางเดิม
- ที่พัก โรงแรมใน Fairy Meadow
- เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม



วันที่ 7 : แฟรี่มิโดวส์ - นารัน
- เช้า รับประทานอาหารภายในที่พัก
- สายๆ นำท่านลงจาก แฟรี่มีโดว์ (Fairy Meadow) ต่อด้วยรถจี๊ป โบกมืออำลา “ทุ่งหญ้าแห่งเทพนิยาย”
- เดินทางไปยัง เมืองนารัน (Naran) ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
- เดินผ่านทาง ช่องเขาบาบูร์ซา (Babusar Pass) ที่ระดับความสูง 4,173 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งจักรพรรดิโมกุล Babur Babur เคยผ่านบริเวณนี้ในช่วง ต้นศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันนี้มักเรียกกันว่า Babusar Top
- เที่ยง พัก รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
- แวะจุดชมวิว Lulusar Lake Viewpoint
- บ่าย เดินทางถึง เมืองนารัน (Naran) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหุบเขาคากันตอนบน ในเขตมานเซห์ราของจังหวัดไคเบอร์ เมืองนารันตั้งที่ระดับความสูง 2,409 เมตร (7,904 ฟุต) อยู่ห่างจาก Babusar Pass ประมาณ 65 กิโลเมตร
- เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- ที่พัก โรงแรมในเมือง Naran หรือเทียบเท่า*
วันที่ 8 : นารัน – อิสลามาบัด
- เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- จากนั้นเดินทางสู่เมืองหลวงอิสลามาบัด ระยะทางประมาณ 282 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6.30ชั่วโมง
- เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ระหว่างทาง
- ชม มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ถูกสร้างโดยกษัตริย์ Faisal bin Abdul-Aziz แห่งซาอุดิอาระเบีย และออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี Vedat Dalokay ผู้ซึ่งได้รับรางวัลสถาปัตยกรรม Agha Khan Award ซึ่งลักษณะของมัสยิดแห่งนี้ถูกออกแบบให้คล้ายกับเต็นท์ของชาว Bedouin ในทะเลทราย สามารถบรรจุผู้เข้าร่วมภายในโดมได้ถึง 10,000 คน โดยมีฉากหลังของมัสยิดเป็น Margalla Hills
- เย็น รับประทานอาหาน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
- 19.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพ
- 23.20 น. เดินทางสู่กรุงเทพด้วย สายการบินไทย TG 350

วันที่ 9 : กรุงเทพ
- 06.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิอย่างสวัสดิภาพ
หมายเหตุ โปรแกรมสามารถ ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ หน้างาน ทั้งนี้ ผู้จัดจะดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของผู้ร่วมทริปเป็นสำคัญ
ราคาทัวร์
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เที่ยวบินชั้นประหยัด (กรุงเทพ-อิสลามาบัด-อิสลามาบัด-กรุงเทพ) บิน TG
- ค่าภาษีสนามบิน, ค่าภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ
- ค่าพาหนะหรือ รถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยวพร้อมคนขับรถที่ ชำนาญเส้นทาง ตามที่ระบุไว้ในรายการ และหัวหน้าทัวร์จาก เมืองไทยดูแล ตลอดทริป
- ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน ในโรงแรมสแตนดาร์ด ระดับ 3ดาว ตามที่ระบุในรายการหรือ ระดับเดียวกัน รวมทั้งสิ้น 7 คืน กรณีพักเดี่ยว จ่ายเพิ่ม 15,000 บาท
- ค่าอาหารตามที่ระบุตามรายการ มีทั้งแบบ รวมอาหาร และไม่รวมอาหาร ในราคาที่แตกต่างกัน
- ไกด์ท้องถิ่นประเทศปากีสถานภาษาอังกฤษ และหัวหน้าทัวร์ไทย กรณีผู้เดินทาง 10 ท่านขึ้นไป
- ค่าวีซ่านักท่องเที่ยว
- ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
- ค่าประกันอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงิน ท่านละ 1,000,000.- บาท
- ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง
- ภาษีต่างๆ เช่น ภาษี 7% ภาษีหัก ที่จ่าย 3%
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ นอกเหนือรายการ
- ค่ายกขนกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ โดยเฉลี่ย 1 USD / ท่าน
- ค่าธรรมเนียมทิปพนักงานขับรถ-ทิปไกด์ท้องถิ่น- หัวหน้าทัวร์ ( แนะนำ /2,500 /ท่าน/ทริป)
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง, ค่าซักรีด, โทรศัพท์-แฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุในรายการ
- ค่าลูกหาบ ค่าขี่ม้า และ กิจกรรมเสริม นอกเหนือในโปรแกรม (ถ้ามี)
- หนังสือเดินทาง ต้องมีอายุเหลือการใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน นับจากวันเดินทาง และต้องมีหน้าว่างเหลือสำหรับ ประทับตราวีซ่า และตราประทับเข้า-ออกอย่างน้อย 2 หน้าเต็ม
- สแกนหรือถ่ายรูปส่งทางอีเมล์หรือส่งทางไลน์ -รูปถ่ายพื้นหลังสีขาวชัดเจน
- ประวัติส่วนตัว เช่น ชื่อบิดา-มารดา / กรุ๊ปเลือด / ที่อยู่ในไทย
- ชำระค่ามัดจำ 20,000 บาท (หรือตามเงื่อนไขที่กำหนดของรายการ) พร้อมส่งเอกสารให้กับบริษัทฯ ภายใน 3 วัน หลังการจองและจะได้รับเอกสารยืนยันการจองและใบรับเงินจากทางบริษัทฯ (ใบเสร็จรับเงินจะได้รับเมื่อชำระเงินส่วนที่เหลือครบแล้ว)
- ชำระค่าเดินทางส่วนที่เหลือ พร้อมส่งเอกสารให้กับบริษัทฯ 30 วันก่อนวันเดินทาง
- ในกรณีที่ผู้เดินทางจองบริการแต่ไม่ชำระค่าบริการตามเงื่อนไข ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านสละสิทธิ์ และจะไม่คืนเงินมัดจำ 100%
- เมื่อผู้เดินทางชำระค่าบริการส่วนแรก ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านรับทราบข้อตกลงและเงื่อนไขทั้งหมด
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินกรณี
- ยกเลิกก่อนการเดินทางน้อยกว่า 30-44 วัน ทางบริษัทฯ หักค่ามัดจา 100% (20,000บาท หรือตามเงื่อนไขที่กำหนดของแต่ละรายการ)
- ยกเลิกการเดินทาง 15-29 วัน ก่อนวันเดินทาง หักค่าใช้จ่าย 50% ของค่าบริการ
- ยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 14 วัน ก่อนวันเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่าบริการ 100%
- ในกรณียกเลิกการเดินทางช่วงเวลาใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินค่าบริการประเภท Non-Refund ทุกประเภท
- การถูกปฏิเสธการเข้าเมืองไม่ว่ากรณีใด บริษัทฯ จะไม่มีการคืนเงินทั้งหมด
- ในกรณีที่ไม่ครบ 10 ท่าน จะไม่มีหัวหน้าทัวร์เดินทางด้วย หรือปรับราคาขึ้นตามผู้เดินทางจริง
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้และจะไม่รับผิดชอบใดๆในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของ หัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติการจลาจล ต่างๆ
- เนื่องจากรายการทัวร์เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือถูก ปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินในทุกกรณี
- กรณียกเลิกการเดินทางภายหลังจากได้วีซ่าแล้ว ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ ในการแจ้งสถานทูตฯเพื่อให้อยู่ใน ดุลพินิจของสถานทูตฯ เรื่องวีซ่าของท่าน เนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศจะถูกบันทึกไว้เป็นสถิติในนามของ บริษัทฯ เมื่อท่านใดชำระเงินมัดจำ หรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรง ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆของเอกสารวีซ่า
- หากสายการบินมีการยกเลิกเที่ยวบินหรือหากมีเหตุการณ์ประการใดที่เกิดขึ้นจากสายการบิน ทางบริษัทฯ ขอ สงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์หน้างานที่เกิดขึ้นจริง
- หากสายการบินมีการยกเลิกเที่ยวบิน, เที่ยวบินล่าช้า หรือหากมีเหตุการณ์ประการใดที่เกิดขึ้นจากสายการบิน ซึ่ง ทำให้เกิดผลกระทบกับท่านผู้มีบินเที่ยวภายในประเทศ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ ที่จะไม่รับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
- ตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถระบุที่นั่งได้กรณีขอที่นั่งพิเศษ บริษัท ฯจะทำการขอที่กับทางสายการบินให้ ทั้งนี้บริษัทฯไม่ยันยืน ว่าจะ ได้ตามคำขอซึ่งขึ้นอยู่กับ สายการบินและจำนวนที่นั่ง ผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบิน
- ในกรณีจำเป็นต้องปรับแผนการเดินทาง อันเนื่องมาจาก สภาพดินฟ้าอากาศ ภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น และไม่สามารถเข้าถึงสถานที่ในบางจุดได้ ทางบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการปรับแผนการเดินทางใหม่ให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและใกล้เคียงกับแผนเดิมที่ได้วางไว้อย่างใกล้เคียงที่สุด
- การใช้ไฟลต์บินในประเทศนั้น จะลดเวลาเดินทาง จาก 14 ชั่วโมง เหลือเพียง 1 ชั่วโมง แต่สายการบินในประเทศ Pakistan Airline (PIA) มีโอกาสที่จะยกเลิกไฟลต์บินได้ตลอดเวลา โดยอาจจะไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าหนาว ทำให้แผนการเดินทางต้องปรับเปลี่ยนอย่างฉับพลัน
- โดยถ้ามีการยกเลิกไฟลต์บิน ทางบริษัทฯ จะใช้รถโดยสารในการเดินทางโดยทันที และปรับแผนให้ใกล้เคียงกับของเดิม อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งจะต้องถูกนำออกไปเพื่อให้เหมาะสมกับแผนการเดินทางใหม่
- ธรรมชาติคนปากีสถานจะค่อนข้างสบายๆและอัธยาศัยดี เมื่อเข้าใช้บริการร้านอาหาร หรือภัตตาคาร พ่อครัวจะไม่เริ่มทำอาหารให้จนกว่าแขกจะเดินทางมาถึง แม้ว่าจะจองอาหารไว้ทุกอย่างแล้ว ทุกท่านต้องรออาหารนาน 15-30 นาที ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องปกติมากของคนที่นี่ และเช่นเดียวกับระบบการเช็คอินที่ต้องมีการรอทำชื่อห้องของแขกอีกครั้งเมื่อเราเดินทางมาถึง
- สภาพถนนในปากีสถานนั้นแม้ส่วนใหญ่จะลาดยางอย่างดีแล้ว แต่เนื่องจากเป็นเส้นทางตัดเขา เส้นเดียว ไม่มีทางเบี่ยง จึงมีโอกาสที่จะเกิดถนนถูกปิดจากเหตุภัยทางธรรมชาติเช่น ดินถล่ม หรือ หินปิดทาง น้ำท่วม ทำให้ต้องมีการเสียเวลาการเดินทางทำให้พลาดจุดสถานที่บางแห่งเนื่องจากแผนการเดินทางที่เปลี่ยนไป โดยการตัดสินใจจะอยู่บนพื้นฐานของไกด์ท้องถิ่นเป็นสำคัญ
- ปากีสถาน และเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ เป็นการท่องเที่ยวธรรมชาติแทบจะ 100% สภาพอากาศจะมีผลอย่างมาก ถึงแม้ว่าทางบริษัทฯ จะเลือกฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเดินทางของสถานที่นั้นๆแล้ว แต่อาจพบกับสภาพอากาศที่ไม่คาดฝันและไม่อาจพยากรณ์ล่วงหน้าได้นาน เช่น พายุฝน พายุทราย พายุหิมะ น้ำท่วม ฝนตกบนยอดเขา ซึ่งลักษณะเขาที่นี่ จะมีความเป็นหินกรวด ซึ่งหลังฝนตกในปริมาณพอควร อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ Stone Flood ลงมาปิดเส้นทางได้ ต้องใช้เวลาเคลียร์ทางและเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง
- ปากีสถาน ถือว่าเป็นประเทศโลกที่ 3 ดังนั้นการเดินทางทุกอย่างมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้ และอาจต้องปรับใช้แผนที่สอง หรือแผนที่สามได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามด้วยอัธยาศัยไมตรีของคนปากีสถานนั้นจะทำให้ท่านประทับใจและเข้าใจกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น




ทัวร์อัพเดท